วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประวัติพัฒนาการและความเป็นมาของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ความเป็นมาของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information  Technology หรือ IT)
จากข้อความข้างบนนี้ แยกออกได้และมีความหมาย ดังนี้
  1. เทคโนโลยี Technology หมายถึงการนำเอาความรู้จากวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์เข้าด้วยกันเพื่อให้สิ่งต่างๆ มีประโยชน์ในทางการปฏิบัติและการอุตสาหกรรม เช่น ซิป (Chip) ถูกสร้างมาจากทรายหรือซิลิกอน ผ่านกรรมวิธีพิเศษจนเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาสูงและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก
  2. เทคโนโลยีสารสนเทศ Information Technology หมายถึง เทคโนโลยีที่มีความเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผลสารสนเทศทำให้สารสนเทศนั้นมีประโยชน์และสามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
ประโยชน์ของผู้มีความรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT
  1. ใช้คอมพิวเตอร์ได้สะดวกและคุ้มค่า
  2. ทันกับสภาพสังคมที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและสามารถคาดการแนวโน้มการใช้ในอนาคตได้
  3. สามารถเลือกซื้อ  หรือเลือกใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้เหมาะสมกับงานและความต้องการของตน
  4. รู้ทันข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่เสมอ
  5. มีความรู้กว้างขวางหลายสาขา  มีความรู้รอบตัวมากขึ้น
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT
ในปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกันมากขึ้นเนื่องจากมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อำนวยความสะดวกในการทำงานมากขึ้น คอมพิวเตอร์ก็ได้พัฒนารูปแบบการใช้งา ให้มีความสะดวกและง่ายขึ้นโปรแกรมการทำงานต่าง ๆ ตรงกับความต้องการของผู้ใช้และยังสามารถทำงานได้หลายอย่างในเครื่องเดียวกัน การประมวลผลก็เร็วขึ้นนอกจากนั้นยังสามารถทำงานในลักษณะการดูหนังฟังเพลงได้ด้วยแม้แต่การสื่อสารกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ทำได้ ง่ายดายคนจึงมักจะพูดว่าโลกไร้พรหมแดนก็เพราะการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อสื่อสารสะดวกรวดเร็ว  สิ่งที่องค์กรต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงในการนำเทคโนโลยีมาใช้ มีดังนี้
  1. ถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กมีบุคลากรไม่มากการใช้เทคโนโลยีก็อาจจะทำให้สิ้นเปลืองและค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ใช้แรงงานจากมนุษย์ก็เป็นได้
  2. การพัฒนาการของเทคโนโลยี จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การนำเทคโนโลยีมาใช้จึงต้องคำนึงถึงอนาคตด้วย เนื่องจากแนวโน้มการพัฒนาของเทคโนโลยีจะเป็นอย่างไรนั้นองค์กรต้องใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้วย
  3. การบริหารจัดการ ต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับรูปแบบขององค์กร อันจะมีผลต่อความได้เปรียบเสียเปรียบด้านการตลาดด้วย
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
  1. ด้านการติดต่อสื่อสาร มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างไม่มีอุปสรรค ดังคำที่ว่า "โลกไร้พรหมแดน"
  2. ด้านการศึกษา นักเรียนนักศึกษาในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเรียนอยู่ที่บ้านไม่ต้องมาโรงเรียนใช้วิธีการเรียนทางไกลโดยเรียนผ่านทางอินเตอร์เน็ต
  3. ด้านการดำเนินชีวิต มนุษย์มีความสุขสะบายมากขึ้นการทำงานหากมีความเสี่ยงสูงก็ใช้หุ่นยนต์ทำหน้าที่แทน การดูแลรักษาความปลอดภัยก็ใช้โปรแกรมคอดตรวจสอบให้ทั้งหมดได้
  4. ด้านสุขภาพ  วงการแพทย์รักษาโรคได้มากขึ้น มีระบบแพทย์ออนไลน์คอยดูแลรักษาทางอินเตอร์เน็ตได้โดยร่วมกันรักษาโรคทั่วโลกได้
  5. ด้านการท่องเที่ยวและความบันเทิง  สามารถผ่านระบบอินเตอร์เน็ตทุกรูปแบบ เช่น การจอดตั๋ว การตรวจสอบสถานที่ การสอบถามข้อมูล การดูหนังฟังเพลง ตลอดจนการซื้อของไม่ต้องไปเดินซื้อตามห้างสรรพสินค้า
ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านต่าง ๆ
  1. ผลกระทบต่อการศึกษา การนำเทคโนโลยีหรือสื่อการเรียนมาใช้มากเกินไปจะเกิดปัญหาที่ชัดเจน คือ
    • ครู กับ นักเรียนขาดความสัมพันธ์และความใกล้ชิด ทำให้ความสำคัญของโรงเรียนและครูน้อยลง
    • นักเรียนที่มีฐานะยากจนไม่สามารถเรียนโดยใช้สื่อเหล่านี้ได้ทำให้เกิดการเสียโอกาสทางการศึกษาและทางสังคมที่แตกต่างกัน
    • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เกิดปัญหาผลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเพราะมนุษย์นำเทคโนโลยี ไปใช้ในทางที่ผิด เพราะมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนต้นเท่านั้น
  2. ผลกระทบต่อสังคม
    • เกิดปัญหาว่างงานเพราะเมื่อใช้เทคโนโลยีแล้วแรงงานก็ใช้น้อยลงทำให้เกิดภาวะว่างงาน
    • การปรับตัวที่ไม่ทันกับการพัฒนาเทคโนโลยี คนที่อายุน้อยพัฒนาตนเองได้ดีขณะที่คนอายุมากพัฒนาตนเองได้น้อยและไม่ทันกับการพัฒนาเทคโนโลยี
    • สังคมจะเป็นแบบต่างคน ต่างอยู่ การดำเนินชีวิตจะไม่มีความสัมพันธ์กันมากนักเพราะทุกชีวิตต้องรีบเร่ง ดิ้นรน
  3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
    • มนุษย์จับจ่ายใช้สอยได้ง่ายขึ้น เพราะมีบัตรเครดิตไม่ต้องพกเงินสด ทำให้อัตราการเป็นหนี้สูงขึ้น
    • การแข่งขันกันทางธุรกิจสูงมากขึ้น หวังผลกำไรมากขึ้น อัตราการขยายตัวทางธุรกิจสูงแต่ผลที่ตามมาก็คือทำให้มุ่งแข่งขันหวังกำไรจนลืมความมีมนุษยธรรมหรือความมีน้ำใจ
  4. ผลกระทบต่อสุขภาพจิต
    • การดำเนินชีวิตแบบเดิมเป็นแบบเรียบง่าย ต้องเปลี่ยนมาเป็นการปรับตัวให้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันตลอดเวลาอาจจะเกิดความเครียด ความวิตกกังวล ไม่ว่าในหน้าที่การงานหรือการดำเนินชีวิตประจำตัวก็ตาม
    • พฤติกรรมของเยาวชน การอยู่กับเกมคอมพิวเตอร์ทำให้เยาวชนเกิดนิสัยก้าวร้าว ชอบการต่อสู้ การใช้กำลัง
    • นักธุรกิจต้องทำงานแข่งกับเวลา พักผ่อนน้อยก็ก่อให้เกิดความเครียด สุขภาพจิต ก็เสียตามไปด้วย
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น
  1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูลทำให้การศึกษาง่ายขึ้นและไร้ขีดจำกัด ผู้เรียนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจัย
  2. การดำรงชีวิตประจำวัน ทำให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็วในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน สามารถทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรือทำงานใช้เวลาน้อยลง
  3. การดำเนินธุรกิจ ทำให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทำให้ต้องมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้ทันกับข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง
  4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการติดต่อสื่อสารที่เจริญก้าวหน้าทันสมัย รวดเร็วถูกต้องและทำให้เป็นโลกที่ไร้พรหมแดน
  5. ระบบการทำงานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทำงานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์ทำไม่ได้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทำงานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ต้องประกอบด้วย
    • ฮาร์ดแวร์ Hardware
    • ซอฟต์แวร์ Software>
    • อุปกรณ์ที่ใช้ในการให้บริการข้อมูลและติดต่อสื่อสาร
พื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วยส่วนประกอบ ดังนี้
  1. องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่
    • ฮาร์ดแวร์ Hardware
    • ซอฟต์แวร์ Software
    • ข้อมูล Data
    • บุคลากร People
  2. โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ระบบและผู้ใช้งาน Programmer,System Analyst และ User เป็นบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในงานคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเมอร์มีหน้าที่เขียนโปรแกรมตามที่นักวิเคราะห์ได้ออกแบบไว้ ส่วนผู้ใช้จะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อทิศทางในการพัฒนาเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์มากที่สุด
  3. หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยแสดงผลและหน่วยเก็บข้อมูล
    • หน่วยรับข้อมูล ทำหน้าที่รับโปรแกรมและข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์
    • หน่วยประมวลผล ทำหน้าที่ประมวลผลและควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
    • หน่วยแสดงผล ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลข้อมูล
    • หน่วยเก็บข้อมูล ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่รอการประมวลผล และเก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลในระหว่างที่รอส่งไปยังหน่วยแสดงผล
  4. การจัดการข้อมูล ซึ่งหมายถึงแฟ้มข้อมูล
  5. การประมวลผล ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน
    • การรวบรวมข้อมูล
    • การประมวลผล
    • การดูแลรักษา
เทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบต่าง ๆ
  1. เทคโนโลยีระบบสารสนเทศ เป็นระบบการจัดการสารสนเทศที่ทำหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นการบันทึก การแก้ไข การทำรายงาน งานบัญชี งานลงทะเบียน ระบบสารสนเทศจะช่วยให้องค์กรมีความสะดวกรวดเร็วในการทำงานและยังช่วยเป็นข้อมูลในการตัดสินใจด้วย
  2. เทคโนโลยีระบบเครือข่าย เป็นระบบเทคโนโลยีที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน มีประโยชน์ ดังนี้
    • สามารถติดต่อถึงกันได้ด้วยจดหมายอิเล็คทอร์นิกส์ (E-mail)
    • จัดเก็บข้อมูลไว้รวมในที่เดียวกัน ผู้อยู่ห่างไกลก็สามารถดึงข้อมูลนั้นไปใช้ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
    • องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายงบประมาณด้านอุปกรณ์ เพราะระบบเครือข่ายสามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้
    • สามารถทำงานร่วมกันได้หรือทำงานโดยใช้เอกสารชุดเดียวกัน
  3. เทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ เป็นระบบการทำงานที่ใช้ระบบการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงาน ซึ่งมีผลทำให้
    • พนักงานสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทางจดหมายอิเลคทรอนิกส์ (E - mail)
    • สามารถบันทึกแฟ้มเอกสารหรืองานพิมพ์เก็บไว้ และสามารถนำมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ง่าย
    • การออกแบบงานต่าง ๆ ทำได้ง่ายสะดวกรวดเร็วและใช้งานได้ง่าย
    • มีระบบฝากข้อความเสียง (Voice Mail)
    • การประชุมทางไกล (Vedio Teleconference)
  4. เทคโนโลยีช่วยสอน CAI ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โรงเรียนและสถานศึกษาก็เริ่มมีการพัฒนาโปรแกรมบทเรียนสำเร็จรูปขึ้นมาใช้และมีผลดีกับนักเรียนที่จะได้สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยและมีความน่าสนใจมากขึ้น การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ
    • การนำมาประยุกต์ใช้งาน จะต้องคำนึงถึงผลที่จะได้รับและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย
    • การวางแผนที่ดี เพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เหมาะสมกับงานและเพื่อประโยชน์สูงสุดที่ควรจะได้รับ
    • มาตรฐานการใช้งาน ควรจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแล ไม่ปล่อยปละละเลยหรือใช้ในทางที่ผิด
    • การลงทุน ควรคำนึงถึงงบประมาณและผลประโยชน์ที่ได้รับด้วย หากประโยชน์ที่ได้ ไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนก็ควรที่จะปรับแผนการเสียใหม่
    • การจัดการข้อมูล ต้องระมัดระวังไม่ให้ข้อมูลซ้ำซ้อน ควรมีการแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้ การทำงานร่วมกัน มีการติดต่อสร้างความสัมพันธ์กัน
    • การรักษาความปลอดภัยของระบบ การใช้เทคโนโลยีร่วมกัน ต้องมีการดูแลให้ สิทธิแก่ผู้ใช้ภายในขอบเขตของแต่ละคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น